Phrasal verbs are usually two-word phrases consisting of verb + adverb or verb + preposition. Think of them as you would any other English vocabulary. Study them as you come across them, rather than trying to memorize many at once. อ่านเพิ่มเติม
วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
Phrasal Verbs List
Phrasal verbs are usually two-word phrases consisting of verb + adverb or verb + preposition. Think of them as you would any other English vocabulary. Study them as you come across them, rather than trying to memorize many at once. อ่านเพิ่มเติม
Phrasal verbs หรือ two-word verbs
คือ การใช้คำกริยาที่ปกติแล้วมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่ส่วนประกอบ เมื่อ verb+ preposition or particle มารวมกันเป็น Phrasal verbs แล้ว อาจจะทำให้เกิดความหมายใหม่ขึ้นมาซึ่งอาจจะไม่มีเค้าความหมายของคำกริยาเดิมเลย นิยมใช้กันมากในภาษาอังกฤษ. อ่านเพิ่มเติม
วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558
PART OF SPEECH
เช่น รากฐาน ผนัง เพดาน หลังคา ประตู หรือหน้าต่าง เป็นต้น ซึ่งส่วนประกอบที่ประกอบขึ้นมาเป็นคำพูด มี 8 ชนิด
Part of Speech ประกอบด้วย
1. Noun – คำนาม
คือ คำที่ใช้เรียก ชื่อ คน สัตว์ วิ่งของ สถานที่ หรือเหตุการณ์ รวมถึงสิ่งที่เป็นนามธรรม (อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด สถาวะ)
คน – เช่น ชื่อคน Gary (แกรี่), James (เจมส์), Peter (ปีเตอร์), David (เดวิด)
สัตว์ – เช่น elephant (ช้าง), dog (หมา), bird(นก), penguin (เพนกวิน)
สิ่งของ – เช่น boat (เรือ), house (บ้าน), car (รถยนต์), computer (คอมพิวเตอร์), book (หนังสือ)
สถานที่ – เช่น hospital (โรงพยาบาล), restaurant (ร้านอาหาร), police station (สถานีตำรวจ), school (โรงเรียน), train station(สถานีรถไฟ)
ความรู้สึก – เช่น love (ความรัก), loyalty (ความซื่อสัตย์), success (ความสำเร็จ), friendship (มิตรภาพ)
2. Pronoun – คำสรรพนาม
คือ คำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้คำนามนั้นซ้ำเวลาพูดถึงอีกในประโยคอื่นๆ มีทั้งอยู่ในรูป Subject (ประธาน) และ Object (กรรม)
Subject (ประธาน) : I, She, He, We, They, You, It
Object (กรรม) : me, her, him, us, them
3. Verb – คำกริยา
คือ การกระทำ หรือคำที่แสดงอาการทางกาย ทางใจ หรือบ่งบอกถึงทางสถาวะ
การกระทำ : run (วิ่ง), smell(ดม), eat (กิน), drunk (ดื่ม)
แสดงอาการทางใจ : feel (รู้สึก), think (คิด)
สภาวะ : have (มี), exist (มีอยู่)
4. Adverb – คำวิเศษณ์
คือ คำที่ใช้ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ คำวิเศษณ์ เพื่ออธิบายข้อมูลเพิ่มเติม ในเชิงความถี่ เวลา สถานที่ หรือกริยาอาการต่างๆ
Adverb of manner (คำวิเศษณ์ที่บอกในเรื่องการกระทำ) : slowly (ช้าๆ), quickly (รวดเร็ว)
Adverb of frequency (คำวิเศษณ์ที่บอกในเรื่องความถี่) : everyday (ทุกๆวัน), often (บ่อยๆ), sometimes (บางเวลา)
5. Adjective – คำคุณศัพท์
คือ คำที่วางไว้หน้าคำนาม หรือสรรพนามเพื่อขยายความเหล่านั้นในเชิงลักษณะ คุณภาพ ปริมาณ เป็นต้น
เช่น good (ดี), beautiful (สวย), young (หนุ่มสาว วัยรุ่น)
6. Preposition – คำบุพบท
คือ คำที่ใช้เชื่อคำนาม สรรพนาม หรือวลีเข้าด้วยกัน
เช่น in, inside, out, outside, above, under, on, to
7. Conjunction – คำสันธาน
คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ (Words) กลุ่มคำ (Phases) หรือ ประโยค (Sentences) เข้าด้วยกัน
เช่น and, or, but, although (แม้ว่า), when (เมื่อ), after
8. Interjection – คำอุทาน
คือ คำที่ใช้เพื่อแสดงอารมณ์ ความรู้สึกของผู้พูดออกมา โดยมักจะใช้เครื่องหมายตกใจ ! (Exclamation mark)
เช่น Wow! (ว้าว), Great! (ดีเยี่ยม), Awesome! (สุดยอด)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)